วิธีเลือกโคมไฟถนนให้เหมาะกับถนนแต่ละประเภท

วิธีเลือกโคมไฟถนนให้เหมาะกับถนนแต่ละประเภท

วิธีเลือกโคมไฟถนนให้เหมาะกับถนนแต่ละประเภท

การเลือก โคมไฟถนน (Street Light) ที่เหมาะสมไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสว่างเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับ ความปลอดภัย พลังงาน และความคุ้มค่าในระยะยาว อีกด้วย

แต่ละพื้นที่มีลักษณะถนนที่แตกต่างกัน เช่น ถนนหลักในเมือง ถนนชุมชน หรือถนนในเขตชนบท ซึ่งล้วนต้องใช้โคมไฟที่มีการออกแบบเฉพาะ เพื่อให้กระจายแสงได้ดีและไม่สิ้นเปลืองพลังงานเกินจำเป็น หลักการ “เลือกโคมไฟถนนให้เหมาะกับถนนแต่ละประเภท” อย่างมืออาชีพ พร้อมเคล็ดลับการเลือกที่ช่วยให้ถนนสว่าง ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 1. ถนนหลัก (Main Road) – โคมไฟถนนที่ให้ความสว่างสูงและกระจายแสงกว้าง

ถนนหลักเป็นเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น ต้องใช้ โคมไฟถนน LED กำลังสูง (High Power LED Street Light) ที่ให้ค่าความสว่างมากกว่า 10,000 ลูเมนขึ้นไป เพื่อครอบคลุมระยะทางและป้องกันจุดอับแสง

  • ควรเลือก อุณหภูมิสี 4000–6500K (แสงขาว) เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสิ่งกีดขวางได้ชัดเจน
  • แนะนำใช้ โคมไฟถนนโซล่าเซลล์แบบ High Lumen Efficiency เพื่อลดค่าไฟระยะยาว
  • ควรติดตั้งบนเสาสูง 8–12 เมตร เพื่อให้กระจายแสงได้กว้างและไม่แยงตา

2. ถนนรอง หรือถนนในเมือง (Secondary / Urban Roads) – โคมไฟดีไซน์สวยพร้อมประสิทธิภาพ

ถนนในเขตเมืองมักต้องการทั้งความสว่างและความสวยงามของดีไซน์

  • ใช้โคมไฟ LED ขนาด 60–200 วัตต์
  • เลือกโคมที่มีดีไซน์ทันสมัย เช่น โคมไฟถนนแบบ Slim หรือ Smart Street Light
  • ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่ต้องการลดค่าไฟ ควรใช้ โคมไฟถนนโซล่าเซลล์ระบบอัตโนมัติ ที่ปรับระดับแสงตามเวลา

นอกจากนี้ การเลือกมุมกระจายแสง (Beam Angle) ควรอยู่ที่ 120°–150° เพื่อให้แสงกระจายทั่วพื้นที่ถนนโดยไม่เกิดแสงรบกวนอาคารใกล้เคียง

 3. ถนนหมู่บ้าน หรือถนนชุมชน – เน้นประหยัดและปลอดภัย

สำหรับถนนชุมชนหรือหมู่บ้านที่มีการสัญจรไม่หนาแน่น การเลือกใช้ โคมไฟถนนโซล่าเซลล์แบบประหยัดพลังงาน ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

  • กำลังไฟอยู่ที่ 50–100 วัตต์ ก็เพียงพอ
  • ควรเลือกแบบ ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสายไฟ และมี ระบบเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensor) เพื่อเปิดไฟเต็มกำลังเมื่อมีคนหรือรถผ่าน
  • อุณหภูมิสีที่เหมาะคือ 3000–4000K (แสงอบอุ่น) ช่วยให้แสงดูนุ่มนวลและไม่แยงตา

4. ถนนในพื้นที่ภูเขา หรือพื้นที่ชนบทห่างไกล – ต้องทนทานและอึดต่อสภาพอากาศ

พื้นที่ห่างไกลมักประสบปัญหาไฟฟ้าเข้าถึงยาก จึงควรเลือก ไฟถนนโซล่าเซลล์ (Solar Street Light) ที่มี

  • แบตเตอรี่ LiFePO4 ความจุสูง
  • แผงโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูง
  • โครงสร้างอลูมิเนียมกันสนิม
  • มาตรฐานกันน้ำ IP65 ขึ้นไป

เพื่อให้ใช้งานได้แม้ในวันที่มีฝนตกหรือแดดอ่อน

 5. ถนนสวนสาธารณะหรือทางเดินเท้า – โคมไฟที่ให้บรรยากาศอบอุ่น

ถนนในสวนหรือทางเดินเท้าควรเน้นแสงที่สร้างความรู้สึกปลอดภัยและสบายตา

  • เลือกโคมไฟถนนแบบเสาสั้น (3–5 เมตร)
  • ใช้หลอดไฟ LED กำลังต่ำ 30–50 วัตต์
  • เน้นดีไซน์ที่เข้ากับสภาพแวดล้อม เช่น โคมไฟหัวกลม หรือโคมไฟเสาเตี้ย

แนะนำใช้ โคมไฟถนนโซล่าเซลล์ดีไซน์ตกแต่ง (Decorative Solar Street Light) เพื่อความสวยงามและไม่ต้องเดินสายไฟ

สรุป

การเลือก โคมไฟถนนให้เหมาะกับถนนแต่ละประเภท คือการผสมผสานระหว่าง “ความปลอดภัย” และ “ความคุ้มค่า”หากต้องการทั้งความสว่าง ประหยัดพลังงาน และดีไซน์สวย โคมไฟถนนโซล่าเซลล์ LED คือคำตอบที่ลงตัวที่สุดสำหรับยุคปัจจุบัน เพียงเลือกให้เหมาะกับพื้นที่และลักษณะถนน ก็สามารถช่วยให้แสงสว่างครอบคลุมทุกมุมของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ENRICH สว่างแน่ ประหยัดด้วย ครบจบเรื่องแสงสว่าง แบรนด์สปอร์ตไลท์ LED โคมไฟถนน LED โคมไฮเบย์ หลอดไฟ LED โซล่าเซลล์และเสาไฟ ดีไซน์สวย ทนทาน เหมาะกับทุกพื้นที่ใช้งาน ทั้งภายในและภายนอก สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ LINE Official Account: @enrichlighting หรือ Facebook: https://www.facebook.com/enrichled